นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงมาตรการลดราคาน้ำมันเบนซิน โดยต้องการให้ลดราคาเบนซินในระดับที่ไม่น้อยกว่าการลดราคาน้ำมันดีเซลก่อนหน้านี้ คือ ราคาน้ำมันเบนซินต้องลดลงอย่างน้อย 2.50 บาท/ลิตร และจะพยายามลดให้ได้ก่อนสิ้นปีเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาขน โดยคาดว่าจะเริ่มที่แก๊สโซฮอล์ 91 ก่อน
ระวังหุ้นไทยผันผวนสูง เม็ดเงินไหลออก จับตาสงครามดันราคาน้ำมันพุ่ง หนุนเงินเฟ้อกลับมา
ให้ ธนาคารรัฐ ทำ ซูเปอร์แอปฯ แจงไม่ใช้เป๋าตัง เพราะวัตถุประสงค์ "ไม่ตรงกัน"
พร้อมกับให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์สงครามในประเทศอิสราเอลอย่างใกล้ชิด ซึ่งเบื้องต้น ยังไม่มีสัญญาณที่น่ากังวลว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ขณะเดียวกัน สภาองค์กรของผู้บริโภคเดินทางยื่นหนังสือถึงนายพีระพันธุ์โดยมี 5 ข้อเสนอ เพื่อแก้ไขปัญหาราคาน้ำมันสำเร็จรูปและราคาก๊าซหุงต้ม ซึ่งได้พูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน และส่วนใหญ่กระทรวงพลังงานทราบดีอยู่แล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการดำเนินการเพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง
แต่การแก้โครงสร้างราคาพลังงาน ต้องศึกษาความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และโจทย์ใหญ่คือต้องแก้กฎหมาย กฎกระทรวง ข้อบังคับต่าง ๆ ด้วย จึงจะสามารถจึงจะสามารถแก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างได้จริง ๆ ซึ่งขณะนี้กระทรวงพลังงานได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาถึงแนวทางการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายแล้วด้วย นายพีระพันธุ์ยังบอกว่าตนจะเป็นผู้ร่างเองทุกฉบับ ยืนยันว่าไม่มีอะไรล่าช้าอย่างแน่นอนถ้าอยู่ในมือของตนแล้ว และเชื่อว่า 1 เดือนที่ผ่านมากระทรวงพลังงานได้ทำให้เห็นแล้วว่าเป็นกระทรวงที่ทำงานเร็ว
ส่วน 5 ข้อเสนอ จากทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ประกอบด้วย
1.ยกเลิกการคิดราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันของประเทศไทยด้วยการอิงราคาตลาดน้ำมันสำเร็จรูปของตลาดสิงคโปร์ บวกค่าพรีเมียม
2. ลดฐานภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจาก 3.67 บาทต่อลิตร เหลือไม่เกิน 1 บาทต่อลิตร และลดฐานภาษีสรรพสามิตน้ำมันแก๊ซโซฮอล 95 จาก 5.85 บาทต่อลิตร ให้เหลือไม่เกิน 2.50 บาทต่อลิตร เพื่อให้ส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันแก๊ซโซฮอล์ 95 และน้ำมันดีเซลต่างกันไม่เกิน 5 บาทต่อลิตร
3คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. ใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อชดเชยในกรณีที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับขึ้นทั้งเบนซินและดีเซล ไม่ควรนำเงินสะสมในกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของผู้ใช้เบนซินไปชดเชยให้เฉพาะผู้ใช้น้ำมันดีเซลฝ่ายเดียว
4. ให้ควบคุมค่าการตลาดน้ำมันเบนซินและดีเซล ซึ่งปัจจุบันสูงถึง 3 – 5 บาทต่อลิตร ให้เหลือตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) คือมีค่าการตลาดเฉลี่ยที่ 1.85 บาทต่อลิตร โดยแก๊สโซฮอล์ 95 และ 91 ไม่เกิน 1.85 บาทต่อลิตรและดีเซลไม่เกิน 1.50 บาทต่อลิตร
5. ขอให้ทบทวนการกำหนดราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) โดยกำหนดให้ภาคครัวเรือนใช้ LPG จากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ เป็นลำดับแรก